มีเครื่องมือทางแสงหลายชนิดที่ช่วยในการเห็นของนัยน์ตา โดยใช้กระจกและเลนส์ประกอบ เช่น กล้องจุลทรรศน์ช่วยให้เราเห็นรายละเอียดของของเล็กๆได้มากกว่าใช้เพียงนัยน์ตา กล้องโทรทรรศน์ช่วยให้เห็นวัตถุที่อยู่ไกลๆได้ชัดเจน กล้องถ่ายรูปช่วยให้เราเก็บภาพต่างๆไว้ดูภายหลังได้
แว่นขยาย
แว่นขยายทำ จากเลนส์นูน มีความยาวโฟกัส 3-20 cm ในการส่องดูวัตถุ
จะต้องวางวัตถุให้อยู่ห่างจากเลนส์เป็นระยะน้อยกว่าความยาวโฟกัสของเลนส์
ซึ่งจะได้ภาพเสมือนหัวตั้ง ขนาดขยาย ภาพอยู่หน้าเลนส์หรืออยู่ข้างเดียวกับวัตถุ
แว่นขยายที่มีความยาวโฟกัสมากจะให้ภาพเสมือนหัวตั้ง
ที่มีขนาดใหญ่กว่าแว่นขยายที่มีความยาวโฟกัสน้อย
ในช่วงระยะที่น้อยกว่าความยาวโฟกัส
ถ้าเลื่อนวัตถุออกห่างจากเลนส์จะได้ภาพเสมือนหัวตั้งขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
ถ้าเลื่อนวัตถุเข้าหาเลนส์
จะได้ภาพเสมือนหัวตั้งขนาดเล็กลงกว่าเดิมแต่ยังใหญ่กว่าวัตถุ และถ้าเลื่อนวัตถุให้ชิดติดกับเลนส์
จะได้ภาพเสมือนหัวตั้งขนาดเท่าวัตถุ
กล้องจุลทรรศน์
กล้องจุลทรรศน์เป็นกล้องที่ใช้ขยายภาพของวัตถุเล็กๆซึ่งอยู่ใกล้ประกอบด้วยเลนส์นูน
2อัน คือ
1 .เลนส์ใกล้วัตถุ หมายถึงเลนส์ที่อยู่ใกล้วัตถุเป็นเลนส์มีขนาดเล็ก
มีความยาวโฟกัสน้อย
2 .เลนส์ใกล้ตาหมายถึงเลนส์ที่อยู่ใกล้ตาเป็นเลนส์ขนาดใหญ่ มีความยาวโฟกัสมาก
2 .เลนส์ใกล้ตาหมายถึงเลนส์ที่อยู่ใกล้ตาเป็นเลนส์ขนาดใหญ่ มีความยาวโฟกัสมาก
หมายเหตุ
เลนส์ใกล้ตาและเลนส์ใกล้วัตถุจะอยู่ห่างกันเป็นระยะคงที่ค่าหนึ่งโดยติดตั้งอยู่ภายในท่อทรงกระบอกซึ่งเป็นส่วน ประกอบหนึ่งของกล้องจุลทรรศน์
ถ้าต้องการมองภาพของวัตถุให้ขยายใหญ่ขึ้น อาจทำได้โดยการเลื่อนท่อทรงกระบอกขึ้นลงเพื่อปรับตำแหน่งของเลนส์(ระยะห่าง ของเลนส์ทั้งสองมีค่าคงเดิม)
เลนส์ใกล้ตาและเลนส์ใกล้วัตถุจะอยู่ห่างกันเป็นระยะคงที่ค่าหนึ่งโดยติดตั้งอยู่ภายในท่อทรงกระบอกซึ่งเป็นส่วน ประกอบหนึ่งของกล้องจุลทรรศน์
ถ้าต้องการมองภาพของวัตถุให้ขยายใหญ่ขึ้น อาจทำได้โดยการเลื่อนท่อทรงกระบอกขึ้นลงเพื่อปรับตำแหน่งของเลนส์(ระยะห่าง ของเลนส์ทั้งสองมีค่าคงเดิม)
กล้องถ่ายรูป
ภาพจริงที่เกิดบนฟิล์มมีระยะภาพจากเลนส์qขึ้นกับระยะวัตถุpกล้องถ่ายรูปโดยทั่วไปมักจะจัดระยะระหว่าง
เลนส์และฟิล์มได้เพื่อให้ได้ภาพชัดบนฟิล์มเมื่อวัตถุอยู่ที่ระยะต่างๆ
กล้องถ่ายรูปยังมีชัตเตอร์(shutter) ควบคุมเวลาเปิดให้แสงเข้ามาในกล้องเพียงพอให้เกิดภาพชัดได้
นอกจากนี้ยังมีช่องเปิดที่ปรับขนาดได้คือ ไดอะแฟรม(diaphragm)ให้แสงเข้าได้ตามต้องการ ภาพที่ได้เป็นภาพจริงหัวกลับขนาดเล็กกว่าวัตถุ
ข้อสังเกตุ -ถ้าวัตถุมีความสว่างมากเราต้องลดขนาดของช่องไดอะแฟรมและเพิ่มความเร็วชัตเตอร์
-ถ้าวัตถุมีความสว่างน้อยเราต้องเพิ่มขนาดของช่องไดอะแฟรมและลดความเร็วชัตเตอร
-ถ้าวัตถุมีความสว่างน้อยเราต้องเพิ่มขนาดของช่องไดอะแฟรมและลดความเร็วชัตเตอร
เมื่อถ่ายรูปวัตถุที่ระยะไกลเช่น ภาพวิว
ภาพจะตกที่ระยะโฟกัสของเลนส์กำลังขยายโดยประมาณ m = f / p พื้นที่ของภาพจะเป็นสัดส่วนกับกำลังสองของด้านสูง
และด้านสูงเป็นสัดส่วนกับความยาวโฟกัสของเลนส์
ฉะนั้นพื้นที่ภาพจึงเป็นสัดส่วนกับความยาวโฟกัสกำลังสองปริมาณแสงที่ผ่านเลนส์เป็นสัดส่วนกับเส้นผ่าน
ศูนย์กลางของเลนส์กำลังสอง
ส่วนความสว่างของภาพบนฟิล์มเป็นสัดส่วนกับปริมาณแสงต่อหน่วยพื้นที่ บนฟิล์มหรือ
ความสว่างบนฟิล์ม
เมื่อ D เป็นเส้นผ่าศูนย์กลางของเลนส์หมายถึงเส้นผ่าศูนย์กลางของไดอะแฟรม และf เป็นความยาวโฟกัส
เมื่อ D เป็นเส้นผ่าศูนย์กลางของเลนส์หมายถึงเส้นผ่าศูนย์กลางของไดอะแฟรม และf เป็นความยาวโฟกัส
เครื่องฉายภาพนิ่ง
เครื่องฉายภาพนิ่งใช้สำหรับฉายภาพประเภทโพสิทีฟ
ขาวดำ หรือฟิล์มสี
ถ้าฟิล์มที่ฉายมีแผ่นเดียว เรียกว่า “สไลด์”
แต่ถ้าเป็นฟิล์มติดต่อกันเรียกว่า “ฟิล์มสตริฟ”
กระจกสะท้อนแสง ทำด้วยโลหะฉาบอะลูมิเนียม ทำหน้าที่สะท้อนแสงด้านหลังของหลอดฉายไปใช้ประโยชน์ด้านหน้า
หลอดฉาย เป็นหลอดไฟขนาดเล็ก มีกำลังการส่องสว่างสูง เนื่องจากหลอดฉายแผ่รังสีความร้อนสูงมาก เครื่องฉายภาพทั่วไปจึงมีพัดลมเป่าระบายความร้อน
เลนส์รวมแสง เป็นเลนส์นูนแกมระนาบ 2 อัน หันด้านนูนเข้าหากัน ทำหน้าที่รวมแสงทั้งหมดให้มีความเข้มสูงผ่านสไลด์
และทำให้เกิดภาพจริงของหลอดฉายไปตกตรงจุดศูนย์กลางของเลนส์ภาพ เพื่อมิให้เกิดภาพของหลอดไฟที่จอฉาย
เลนส์หน้ากล้อง เป็นเลนส์นูนเดี่ยวหรือหลายอันประกอบกัน
เลนส์หน้ากล้องมีหน้าที่ฉายภาพไปเกิดภาพจริงหัวกลับที่จอ
การปรับภาพให้ชัดเจน
ปรับโดยการปรับเลนส์ฉายภาพ
ภาพที่เกิดเป็นภาพขนาดขยาย
จึงต้องวางสไลด์ในระยะระหว่าง f กับ 2f
ของเลนส์ฉายภาพ
ที่มา http://kruphysics-satri5.blogspot.com/p/blog-page_986.html
การฉายระบบตรง (Direct
Projection) มีหลักการทำงานโดยสังเขป
คือ แสงที่สะท้อนจากแผ่นสะท้อนแสง รวมกับแสงโดยตรงจากหลอดฉาย ผ่าน
เลนส์รวมแสงผ่านวัสดุที่นำมาฉาย และผ่านเลนส์ภาพไปสู่จอ ดังแผนภาพ
การฉายระบบนี้มีการสูญเสียความเข้มของแสงน้อย
จึงสามารถใช้ฉายในห้องที่มีแสงสว่างไม่มากเกินไปนักได้
เครื่องฉายที่ใช้ระบบนี้ได้แก่ เครื่องฉายสไลด์เครื่องฉานฟิล์ม
และเครื่องฉายภาพยนตร์ เครื่องฉายระบบตรงนี้โดยปกติจะให้ภาพโดยพอเหมาะ
เมื่อฉายในระยะห่างจากจอไกลสมควรจึงเรียกเครื่องฉายระบบนี้ว่า "Long
throw"
กล้องโทรทัศน์
กล้องโทรทรรศน์ชนิดหักเหแสง
หลักการพื้นฐานประกอบด้วยเลนส์ 2 อัน คือ เลนส์ใกล้วัตถุ ทำด้วยเลนส์นูนมีความยาวโฟกัส ยาวมาก วัตถุซึ่งอยู่ไกลมากจะมีรัศมีรังสีแสงขนานมาตกกระทบเลนส์ใกล้วัตถุ แล้วหักเหไปเกิดภาพจริงตรงตำแหน่งที่ใกล้กับจุดโฟกัสของเลนส์ใกล้วัตถุ โดยมีมุมรองรับรังสีหักเหที่มาตัดกันเกิดภาพ เลนส์ใกล้ตา ทำด้วยเลนส์นูนมีความยาวโฟกัส( fe ) สั้น วางเลนส์ใกล้ตาโดยให้ภาพที่เกิดจากเลนส์ใกล้วัตถุ อยู่ระหว่างจุดโฟกัสของเลนส์ใกล้ตากับเลนส์ตา ทั้งนี้เพื่อให้เกิดภาพเสมือน ขนาดขยาย หัวกลับ เมื่อเทียบกับวัตถุจริง
หลักการพื้นฐานประกอบด้วยเลนส์ 2 อัน คือ เลนส์ใกล้วัตถุ ทำด้วยเลนส์นูนมีความยาวโฟกัส ยาวมาก วัตถุซึ่งอยู่ไกลมากจะมีรัศมีรังสีแสงขนานมาตกกระทบเลนส์ใกล้วัตถุ แล้วหักเหไปเกิดภาพจริงตรงตำแหน่งที่ใกล้กับจุดโฟกัสของเลนส์ใกล้วัตถุ โดยมีมุมรองรับรังสีหักเหที่มาตัดกันเกิดภาพ เลนส์ใกล้ตา ทำด้วยเลนส์นูนมีความยาวโฟกัส( fe ) สั้น วางเลนส์ใกล้ตาโดยให้ภาพที่เกิดจากเลนส์ใกล้วัตถุ อยู่ระหว่างจุดโฟกัสของเลนส์ใกล้ตากับเลนส์ตา ทั้งนี้เพื่อให้เกิดภาพเสมือน ขนาดขยาย หัวกลับ เมื่อเทียบกับวัตถุจริง
ที่มา http://kruphysics-satri5.blogspot.com/p/blog-page_986.html
กล้องโทรทรรศน์แบบสะท้อนแสง
หลัก
การของกล้องโทรทัศน์ชนิดสะท้อนแสง เช่น
กล้องดูดาวที่ใช้กระจกเป็นหลัก
กล้องจะรับแสงที่เข้ามากระทบกับกระจกเว้าที่อยู่ท้ายกล้องที่เราเรียกว่า Primary
Mirror แล้วรวมแสงไปกระทบกับกระจกระนาบหรือปริซึม เราเรียกว่า Secondary
Mirror ที่อยู่กลางลำกล้อง
ให้สะท้อนเข้าสู่เลนซ์ตาขยายภาพอีกทีหนึ่ง
ที่มา http://kruphysics-satri5.blogspot.com/p/blog-page_986.html
โดยหลักการคำนวนอัตราการขยายคือ
อัตราขยายของกล้อง = ความยาวโฟกัสของกระจกเว้า
/ ความโฟกัสของเลนซ์ตา
ข้อดีของกล้องชนิดนี้
1. ใช้กระจกเว้าเป็นตัวรวมแสง
ทำให้สามารถสร้างขนาดใหญ่มากๆได้ ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าเลนซ์ที่มีขนาดเท่ากัน
2. โดยทั้วไปกล้องชนิดนี้จะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง
5-6 นิ้วขึ้นไป ทำให้มีการรวมแสงได้มากเหมาะที่จะใช้สังเกตวัตถุระยะไกลๆ เช่น
กาแลกซี เนบิวล่า เพราะมีความเข้มแสงน้อยมาก
3. ภาพที่ได้จากกล้องแบบสะท้อนแสง
จะไม่กลับภาพซ้ายขวาเหมือนกล้องแบบหักเหแสง แต่การมองภาพอาจจะ หัวกลับบ้าง
ขึ้นอยู่กับลักษณะการมองจากกล้องเพราะเป็นการมองที่หัวกล้อง ไม่ใช่ที่ท้ายกล้อง
เหมือนกล้องแบบหักเหแสง
ที่มา http://kruphysics-satri5.blogspot.com/p/blog-page_986.html