เมื่อแสงเดินทางจากตัวกลางที่มีดรรขนีหักเหมากไปยังตัวกลางที่มีดรรชนีหักเหน้อยรังสีหักเห
จะเบนออกจากเส้นแนวฉาก
กรณีที่มุมหักเห เป็น90องศารังสีหักเหจะขนานกับผิวรอยต่อเราเรียกมุมตกกระทบนี้ว่ามุมวิกฤติ
ที่มา http://pirun.ku.ac.th/~fscijsw/Light&device/light/html/body3-2.htm
ภาพแสดงการการหักเหของแสงเมื่อแสงเดินทางจากตัวกลางที่มีค่าดรรชนีหักเหน้อยไปตัวกลางที่มีค่าดรรชนีหักเหมาก
รังสีเส้นที่1เมื่อแสงตกตั้งฉากกับผิวรอยต่อ แสงจะไม่หักเห รังสีเส้นที่2 และ3
เมื่อรังสีตกทำมุมกับเส้นแนวฉากรังสีจะเบนออกจากเส้นแนวฉาก(มุมหักเหมากกว่ามุมตกกระทบ)
จนกระทั่งมุมหักเห ขนานกับผิวรอยต่อเราเรียกมุมตกกระทบที่ทำให้มุมหักเหเป็น90 องศา
ว่ามุมวิกฤติ (รังสีเส้นที่4)และถ้ามุมตกกระทบมากกว่ามุมวิกฤติ
รังสีจะสะท้อนกลับมาในตัวกลางดิม(รังสีเส้นที่5)
sin 90 = 1
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgLUw6fz2C_HN1f1lu20opI0WaQSSvO-3ylW0sT_7dsyxuB9JUg6VTYNKbt0kE0lE08IAYzLrO92SlJ7ke2GRqLpPmPvEVxyb6FjeoUGBchlfmk97sLGKaL2Ir2QCCVzj7q65d7umUPaZr0/s1600/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E27.gif)
ซึ่งจากความสัมพันธ์อาจเขียนได้ดังนี้
การสะท้อนกลับหมดหมายถึง
การที่มุมตกกระทบมีค่ามากกว่ามุมวิกฤตทำให้ไม่มีรังสีหักเห
จะมีแต่รังสีสะท้อนเท่านั้นการเกิดการสะท้อนกลับหมดได้แสงต้องเดินทางจากตังกลางที่มีดัชนีหักเหมาก
ไปยังตัวกลางที่มีดรรชนีหักเหน้อยในทางคำนวณถ้าโจทย์กล่าวถึงการสะท้อนกลับหมดแสดงว่าแสงเดินทาง
จากตัวกลางที่มีดรรชนีหักเหมากไปยังตัวกลางที่มีดรรชนีหักเหน้อย
ตามรูปด้านบนคือรังสีเส้นที่4
การจะหามุมที่สะท้อนกลับหมดต้องหามุมวิกฤตก่อนแล้วสรุปว่ามุมตกกระทบที่จะทำให้เกิด การสะท้อนกลับหมดได้ต้องมีค่ามากกว่ามุมวิกฤตเราสามารถนำหลักการสะท้อนกลับหมดของแสงไปใช้ได้ หลายๆอย่าง
การจะหามุมที่สะท้อนกลับหมดต้องหามุมวิกฤตก่อนแล้วสรุปว่ามุมตกกระทบที่จะทำให้เกิด การสะท้อนกลับหมดได้ต้องมีค่ามากกว่ามุมวิกฤตเราสามารถนำหลักการสะท้อนกลับหมดของแสงไปใช้ได้ หลายๆอย่าง
ตัวอย่างของการสะท้อนกลับหมด
ที่มา http://pirun.ku.ac.th/~fscijsw/Light&device/light/html/body3-3.htm
เส้นใยนำแสงเป็นตัวอย่างหนึ่งของการนำหลักการสะท้อนกลับหมดมาใช้
โดยทั่วไปจะทำจากแก้ว ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์ประมาณ 0.01-0.1
มม.นำเส้นใยนับพันเส้นมารวมกัน โดยใช้สารซึ่งมีดรรชนี
หักเหน้อยกว่าแก้วยึดเส้นใยนี้ไว้ด้วยกัน (
เหตุที่ต้องใช้สารที่มีดรรชนีหักเหน้อยกว่าแก้วเพื่อให้เกิด
การสะท้อนกลับหมดภายในแก้ว) ซึ่งเส้นใยเหล่านี้มีขนาดเล็กมาก
จึงสามารถดัดให้โค้งงอเป็นวงได้ โดยไม่แตกหัก เมื่อแสงเดินทางเข้าสู่ปลายเส้นใยนำแสงด้านหนึ่งแสงจะผ่านๆไปในแก้วเมื่อถึงผิวที่
โค้งงอก็จะเกิดการสะท้อนกลับหมดอยู่ภายในเส้นใยนำแสงจนกระทั่งออกมาที่ปลายอีกด้านหนึ่งตามภาพด้านซ้าย
เส้นใยนำแสงสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายทาง
ประโยชน์ด้านการแพทย์ - นำมาสร้างเป็นไฟเบอร์สโคป(หรือ แอนโดสโคป ดูภาพด้านล่าง ) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ดูอวัยวะภายในได้โดยสอดเข้าทางปากเพื่อตรวจร่างกาย
ประโยชน์ด้านการสื่อสาร - โดยการส่งสัญญาณด้วยแสงเข้าไปในเส้นใยนำแสง แทนการส่งสัญญาณไฟฟ้าเข้าไปในตัวนำโลหะซึ่งสามารถป้องกันการรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ประโยชน์ด้านการแพทย์ - นำมาสร้างเป็นไฟเบอร์สโคป(หรือ แอนโดสโคป ดูภาพด้านล่าง ) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ดูอวัยวะภายในได้โดยสอดเข้าทางปากเพื่อตรวจร่างกาย
ประโยชน์ด้านการสื่อสาร - โดยการส่งสัญญาณด้วยแสงเข้าไปในเส้นใยนำแสง แทนการส่งสัญญาณไฟฟ้าเข้าไปในตัวนำโลหะซึ่งสามารถป้องกันการรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น